อนุศาสนาจารย์ที่ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร/และรางวัลอื่นๆ

รางวัลพระราชทานแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

          การคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ได้เริ่มมีมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี กรมการศาสนา ได้พิจารณาเห็นว่า รัฐบาลได้จัดให้มีพิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในทุกด้าน และด้านหนึ่งที่ปรากฏชัดเจน เคียงคู่กับกรุงรัตนโกสินทร์มาโดยตลอด ได้แก่ พระพุทธศาสนา ดังนั้น กรมการศาสนาจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ จัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่กิจการทางพระพุทธศาสนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม ยกย่อง เชิดชูบุคคล องค์กร หน่วยงานและสถาบันที่เสียสละกำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญา ทำนุบำรุงกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา โดยมิได้หวังผลตอบแทนแต่ประการใด และได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาทั้งที่เป็นพระสงฆ์และฆราวาส เข้ารับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร โดยกำหนดเข้ารับพระราชทานรางวัลในเทศกาลวิสาขบูชาของทุกปี

อศจ.ทบ. ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

พันเอก (พิเศษ) ปาน  จันทรานุตร

พันเอก (พิเศษ) ปาน  จันทรานุตร  อายุ ๗๓ ปี

หัวหน้าอนุศาสนาจารย์ทหารบก พ.ศ. ๒๕๐๘-๒๕๑๕

เสาเสมาธรรมจักร

ประเภท  ส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม พ.ศ. ๒๕๓๐

………………..

ยศ – ชื่อ – สกุล     พันเอก (พิเศษ) ปาน   จันทรานุตร

ชาติภูมิ           จังหวัดอุบลราชธานี

ชาตกาล          พ.ศ.๒๔๕๗    

ที่อยู่ปัจจุบัน     ๓๙ สุขุมวิท  ๘๑ พระโขนง  กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๑๐

วิทยฐานะ

          -เปรียญธรรม ๗ ประโยค

          -ธรรมศาสตร์บัณฑิต

ตำแหน่งหน้าที่

          -หัวหน้ากองกลาง กรมจเรทหารบก

          -หัวหน้ากองสืบสวนสอบสวน กรมจเรทหารบก

          -ตุลาการศาลทหารกรุงเทพ (กระทรวงกลาโหม)

          -หัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์  กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -อุปนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย

          -ประธานกรรมการพิเศษพุทธิศึกษาพุทธสมาคมฯ

          -กรรมการศูนย์ประสานงานและส่งเสริมวัฒนธรรมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย

ผลงานด้านส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรมที่ดีเด่นได้รับความนิยมเป็นที่ยอมรับและปรากฏผลเด่นชัด

          -ดำเนินการอบรมกรรมฐานแก่ข้าราชการและประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก เขียนหนังสือเรื่องจิตภาวนา  เป็นคู่มือการอบรมกรรมฐาน  อบรมกรรมฐานที่สภาสังคมสงเคราะห์ฯ เป็นประจำ บรรยายธรรมในเรือนจำต่าง ๆ ของกรมราชทัณฑ์  ดำเนินการอบรมความรู้และข้อปฏิบัติเบื้องต้นทางพระพุทธศาสนาแก่นักเรียนนักศึกษาหลายรุ่น

            -เปิดหลักสูตรอบรมจิตภาวนาแก่ครูอาจารย์และประชาชนทั่วไปที่ตึก สว.ธรรมนิเวศ วัดบวรนิเวศ  ในฐานะเป็นประธานกรรมการดำเนินงาน ได้ ๑๐ รุ่น ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๕ – ๒๕๒๙

          -เปิดหลักสูตรอบรมจิตภาวนาแก่ข้าราชการ ร.พ.ช. ในส่วนกลาง ๒ รุ่น และส่วนภูมิภาค (ศูนย์ ร.พ.ช. ประจวบคีรีขันธ์ ) ในระหว่างปี ๒๕๒๗ – ๒๕๒๘

          -เปิดอบรมหลักสูตรจิตภาวนาแก่กรรมการพุทธสมาคมและประชาชนจังหวัดแพร่ ระหว่างปี ๒๕๒๗-๒๕๒๘

          -เปิดอบรมหลักสูตรจิตภาวนา แก่วิทยากรของพุทธสมาคมในเครือทั่วประเทศ    ที่วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี  จ.สิงห์บุรี  ระหว่างปี ๒๕๒๘ – ๒๕๒๙

          -เปิดอบรมหลักสูตรจิตภาวนา แก่อนุศาสนาจารย์ของกรมราชทัณฑ์ รุ่นแรก     เมื่อ ๒ ธ.ค. ๒๙ – ๑๒ ธ.ค. ๒๙  และรุ่น ๒ เมื่อ ๔ ก.พ. ๓๐ – ๑๒ ก.พ. ๓๐ เป็นการฝึกอบรมอนุศาสนาจารย์ทั่วทุกเรือนจำของกรมราชทัณฑ์  และวิทยากรเหล่านี้กำลังเริ่มนำกรรมฐานเข้าสู่ผู้ต้องขังทั่วประเทศ  ตามนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์   นายสนิท  รุจิณรงค์

          -เปิดหลักสูตรอบรมจิตภาวนา (ทบทวน) แก่ผู้ประสงค์ที่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ๒ รุ่น ในปี ๒๕๓๐

          -นำไหว้พระสวดมนต์และปฏิบัติธรรมบรรยายธรรมแก่ชมรมส่งเสริมสมรรถภาพจิตสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เป็นประจำทุกวันพระ

          -พันเอก (พิเศษ) ปาน จันทรานุตร  ได้อุทิศตนสอนธรรมและวิธีปฏิบัติธรรมแก่บุคคลทั่วไป ด้วยความเสียสละตลอดมา จึงเป็นบุคคลที่พึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีผลงานดีเด่นด้านส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรมโดยแท้


พันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน  อายุ ๖๘ ปี

พันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน  อายุ ๖๘ ปี

หัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

พ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๒๑

ประเภท  ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๑

…………………………

ยศ – ชื่อ – สกุล     พันเอก (พิเศษ) ทองคำ  ศรีโยธิน

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๓๖ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ๙ ถนนพระราม ๖ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท  ๑๐๔๐๐

ชาตกาล  ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๖๓   

วิทยฐานะ

          -เปรียญธรรม ๗ ประโยค

          -ประกาศนียบัตรครูมัธยมพิเศษ (พ.ม.)

          -ประกาศนียบัตรโรงเรียนเสนาธิการทหารบก

          -วุฒิบัตรวิทยาลัยการทัพบก

ตำแหน่งหน้าที่

          -หัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

            -ประธานกรรมการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์  กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -กรรมการอบรมข้าราชการและประชาชน (ยุค จอมพล ผิน ชุณหะวัณ)

          -วิทยากรในโครงการคุณธรรมสัมพันธ์  ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)

          -นายกสมาคมศิษย์เก่ามหามกุฎราชวิทยาลัย

          -เป็นคณะผู้ก่อตั้งยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชูปถัมภ์

          -กรรมการพุทธศาสตร์ และอุปนายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

          -เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ บ้านราชวิถีของยุวพุทธิก-สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

          -นายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

          -กรรมการพุทธิศึกษาของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

          -กรรมการสอบคัดเลือกอนุศาสนาจารย์  กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -รองประธานกรรมการมูลนิธิเผยแผ่ธรรมะของอนุศาสนาจารย์ทหารบก

            -กรรมการมูลนิธิส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ทางพระพุทธศาสนาเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ

          -กรรมการที่ปรึกษาเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย

          -กรรมการที่ปรึกษามูลนิธิส่งเสริมสวัสดิภาพสตรีและเยาวชนในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา

          -กรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพสตรีสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน เกิดที่ห้องแถวของพนักงานกรมสรรพาวุธทหารบก เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๓ พ่อแม่เป็นคนท่าเรือ อยุธยา มีพี่น้องท้องเดียวกัน ๕ คน อาจารย์เป็นคนที่ ๔ ท่านเป็นอนุศาสนาจารย์ ตั้งแต่อายุ ๒๙ ปี จนกระทั่งเกษียณที่ตำแหน่ง หัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก     ยศพันเอก(พิเศษ)

          ชีวิตท่านคลุกคลีอยู่กับการสอนศีลธรรมให้แก่ข้าราชการทหาร ท่านได้สัมผัสและดูดดื่มธรรมะมาค่อนชีวิต จึงมองเห็นแก่นแท้ของพุทธศาสนา มั่นใจว่า วิปัสสนาเป็นหัวใจของพุทธศาสนา ขณะที่ท่านเป็นผู้อำนวยการยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย   ได้สอนเรื่องวิปัสสนากรรมฐานแก่คนทั่วไป อาทิตย์ละ ๒๐๐-๓๐๐ คน ทุกเดือน ตลอดปี “เราจะปั้นจักรกลที่มีประสิทธิภาพ ออกไปช่วยบ้านเมือง จะปั้นยุวพุทธิกสมาคมให้เป็นเสาเอกของพระศาสนา เป็นเสาเอกให้แก่เมืองไทย”… นี่คือปณิธานอันแน่วแน่ 

          คติธรรมในการบริหารงาน จากสัมโมทนียกถา ที่มีต่อคณะกรรมการบริหาร      ยุวพุทธฯ ซึ่งคณะกรรมการสมาคมได้ยึดมั่นนำมาเป็นหลักการทำงานตลอดมา ๕ ข้อ ดังนี้

          ๑. การไม่ถือตนเป็นใหญ่

          ๒. รับฟังความคิดเห็นของทุกคน

          ๓. ไตร่ตรองพิจารณาว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ คิดถึงหลักประโยชน์ส่วนรวม

          ๔. นำธรรมะของพระพุทธองค์เข้ามาประกอบการพิจารณาทุกครั้ง 

          ๕. ภูมิใจในการเป็นผู้เสียสละ ด้วยความมั่นคง และมั่นใจ


พันเอก (พิเศษ) วัชระ   คงอดิศักดิ์

พันเอก (พิเศษ) วัชระ   คงอดิศักดิ์  อายุ ๖๑ ปี

ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

พ.ศ.๒๕๒๙ – ๒๕๓๐

ประเภท  การแต่งหนังสือทางพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๓๒

………………………………….

ยศ ชื่อ – สกุล  พันเอก (พิเศษ) วัชระ  คงอดิศักดิ์

ที่อยู่              บ้านเลขที่ ๕ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ๑๐ แขวงสามเสนใน ถนนพระราม ๖เขตพญาไท   กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐

ชาติภูมิ           หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านครัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี

ชาติกาล          ๙ พฤษภาคม ๒๔๗๑

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๙

          พ.ศ. ๒๕๐๘ หลักสูตรการศาสนา รุ่นที่ ๑ จากกรมการศาสนา

          พ.ศ. ๒๕๑๓ หลักสูตรนายทหารสารบรรณ ชั้นนายพัน รุ่นที่ ๖ จากโรงเรียนทหารสารบรรณ กรมสารบรรณทหารบก

          พ.ศ. ๒๕๒๑ หลักสูตรนายทหารอนุศาสนาจารย์ รุ่นที่ ๒  จาก        กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

          พ.ศ. ๒๕๒๖ การอบรมความมั่นคงแห่งชาติ สำหรับนักบริหารบุคคล รุ่นที่ ๒๕ จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

          -พ.ศ. ๒๔๙๘ วัฒนธรรมปาฐก สำนักวัฒนธรรมจิตใจ สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ

          -พ.ศ. ๒๔๙๙ อนุศาสนาจารย์ กรมสวัสดิการทหารบก

          -พ.ศ. ๒๔๙๙ อนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -พ.ศ. ๒๕๐๔ อนุศาสนาจารย์ ศูนย์การทหารม้า

          -พ.ศ. ๒๕๐๗ อนุศาสนาจารย์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

          -พ.ศ. ๒๕๐๙ อนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -พ.ศ. ๒๕๒๘ รองหัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -พ.ศ. ๒๕๒๙ หัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

          -พ.ศ. ๒๕๓๐ ประจำกองบัญชาการ มณฑลทหารบกที่ ๑

          -พ.ศ. ๒๕๓๑ ข้าราชการบำนาญ

          – กรรมการผู้ช่วยบรรณารักษ์ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย

          – กรรมการพุทธศาสตร์ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

          – กรรมการพัฒนาศีลธรรมและจิตใจ และกรรมการศึกษาวิจัยปัญหาสังคม สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

          – กรรมการอำนวยการ สมาคมส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ

          – กรรมการที่ปรึกษา สมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

          – กรรมการที่ปรึกษา สมาคมศิษย์มหาธาตุ

          – รองประธานกรรมการที่ปรึกษา เปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย

          – กรรมการสอบคัดเลือกอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

           -กรรมการจัดทำเอกสาร ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

ผลงาน

ก. ประเภทหนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็ก  แต่งประกวดตามแจ้งความราชบัณฑิตยสถาน และได้รับพระราชทานรางวัลเนื่องในพระราชพิธีวิสาขบูชา

          ๑. พ.ศ. ๒๔๘๙ เรื่อง “พรหมวิหาร”                ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๒. พ.ศ. ๒๔๙๙ เรื่อง “สัปปุริสบัญญัติ”           ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๓. พ.ศ. ๒๕๐๓ เรื่อง “การไม่คบพาลและคบบัณฑิต”ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

            ๔. พ.ศ. ๒๕๐๖ เรื่อง “ความเป็นผู้มีบุญได้ทำไว้ในปางก่อน” ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๕. พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง “วาจาสุภาษิต”               ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๒

          ๖. พ.ศ. ๒๕๑๒ เรื่อง “การบำรุงมารดาบิดา”     ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๒

          ๗. พ.ศ. ๒๕๑๔ เรื่อง “การสงเคราะห์ภรรยา”    ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๒

          ๘. พ.ศ. ๒๕๑๖ เรื่อง “ทาน การเสียสละ”         ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๙. พ.ศ. ๒๕๑๘ เรื่อง “การสงเคราะห์ญาติ”       ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๑๐. พ.ศ. ๒๕๒๐ เรื่อง “การงดเว้นจากบาป”     ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๑๒. พ.ศ. ๒๕๒๓ เรื่อง “ความเคารพ”             ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๑

          ๑๓. พ.ศ. ๒๕๓๑ เรื่อง “การสนทนาธรรมโดยกาล”ได้รับพระราชทานรางวัลที่ ๒

ข. ประเภทตำรา

          ๑. สนทนาภาษาบาลี ๓ ภาษา (ไทย-บาลี-อังกฤษ)

          ๒. ประวัติพระไตรปิฎก

ค. ประเภทบทความ

          ๑. บทความออกอากาศทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย ประมาณ ๒๐ เรื่อง

          ๒. บทความออกอากาศทางสถานีวิทยุกองทัพบก ประจำวันพุธ รายการธรรมะประกาศ ประมาณ ๒๐ เรื่อง

          ๓. บทความออกอากาศรายการสยามานุสติ กองทัพบก ประมาณ ๒๐ เรื่อง

          ๔. บทความธรรมะ ลงหนังสือยุทธโกษ วารสารกองทัพบก ประมาณ ๑๐ เรื่อง

          ๕. บทความธรรมะ ลงหนังสือพุทธศาสตร์ วารสารคณะอนุศาสนาจารย์ กองทัพบก ๒๐ เรื่อง

ง. ประเภทธรรมนิยาย เรื่อง “ราชินีใจเพชร”


พันเอก แสง  สมบุญ

พันเอก แสง  สมบุญ  อายุ ๖๘ ปี

ประเภท  ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๕

………………..

ยศ ชื่อ – สกุล  พ.อ. แสง  สมบุญ

ที่อยู่              บ้านเลขที่ ๒๗๑/๑๘ ซอยวารุณประภา ถนนติวานนท์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง  จังหวัดนนทบุรี ๑๐๑๑๐

ชาติภูมิ           ตำบลทุ่งครุ อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี (กรุงเทพมหานคร)

ชาตกาล          ๔ ตุลาคม ๒๔๖๗

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๗, พธ.บ.

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

          – ข้าราชการบำนาญ สังกัดกระทรวงกลาโหม

          – กรรมการศาสนกิจเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

          – กรรมการธรรมศึกษาพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

          – กรรมการประชาสัมพันธ์สมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

          – กรรมการศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

          – กรรมการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา

          – กรรมการส่งเสริมศาสนา วัฒนธรรม และคุณภาพชีวิต ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

          – กรรมการศูนย์ส่งเสริมและประสานงานสมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

          – กรรมการจัดงานวันแม่ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

          – อนุกรรมการฝ่ายอบรมอาสาสมัคร สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

            – อนุกรรมการจัดทำหลักสูตรการศึกษาปฏิบัติธรรม สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

          – กรรมการฝ่ายเผยแพร่พระเกียรติคุณและจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ        ในคณะกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ     และการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบ

          – อนุกรรมการสมาคมศิษย์วัดมหาธาตุ เพื่อบำรุงการศึกษา เผยแผ่ความรู้    และศีลธรรม

          – กรรมการประชาสัมพันธ์ ชมรมมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

ประวัติการทำงาน

          – บรรพชา อุปสมบท ณ วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระธรรมกถึก ทั้งปุจฉาวิสัชนาและมหาชาติ

          – เป็นครูสอนนักธรรมและบาลี สำนักเรียนวัดระฆังโฆสิตาราม

          – เป็นกรรมการตรวจนักธรรมและบาลีสนามหลวง

          – จบปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิตรุ่นแรกของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย    ในพระบรมราชูปถัมภ์ หลังจากนั้น เป็นครูสอนในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

          – เมื่อลาสิกขาแล้ว รับราชการเป็นอนุศาสนาจารย์กองทัพบก ตั้งแต่          พ.ศ. ๒๕๐๐-๒๕๒๘

          – บรรยายถวายความรู้แก่พระนิสิตมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเวลา ๒๐ ปีเศษ

          – เป็นกรรมการที่ปรึกษา ร.ร.พุทธศาสนาวันอาทิตย์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

          – เป็นกรรมการเผยแผ่ของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

          – ดำรงตำแหน่งอุปนายกของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย จังหวัดลพบุรี

          – เป็นกรรมการพุทธศาสตร์ของยุวพุทธิกสมาคม จังหวัดลพบุรี

          – เป็นกรรมการธรรมศึกษาของพุทธสมาคม จังหวัดลพบุรี

          – เป็นกรรมการผู้ช่วยกรรมการพุทธศาสตร์ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

          – เป็นผู้ริเริ่มจัดให้มีการสนทนาธรรมและตั้งสำนักสนทนาธรรมที่วัดชีป่าสิตาราม จังหวัดลพบุรี

          – บรรยายธรรมรายการธรรมธารา รายการธรรมะกับชีวิตประจำวัน ทาง สวท.

          – บรรยายธรรมทางสถานีวิทยุต่างๆ รวม ๗ สถานี

หลักการครองตน ครองคน ครองงาน

          ครองตน ตั้งอยู่ในศีล ๕ กุศลกรรมบถ ๑๐ ดำเนินชีวิตตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น ฆราวาสธรรม ๔ และทำงานไม่ให้ผู้ใหญ่ตำหนิ ไม่ให้ผู้เสมอกันรังเกียจ และไม่ให้ผู้น้อยดูหมิ่น

          ครองคน ใช้หลักพรหมวิหาร ๔ และสังคหวัตถุ ๔

          ครองงาน ใช้หลักธรรม คือ อิทธิบาท ๔ และมีความตั้งใจทำงานในหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด

ผลงาน

          – บรรยายธรรมในรายการ “ทางเดิน” ของเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย และ “ปกิณกสารคดี” ทางสถานีวิทยุยานเกราะ ๗๙๒

          – ดำเนินการรายการสนทนาธรรมและบรรยายธรรมทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

          – ดำเนินการรายการ “แก้ปัญหาชีวิตด้วยธรรมะ” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

          – บรรยายธรรมประจำสำนักธรรมวิจัยของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย        ในพระบรมราชูปถัมภ์

            – บรรยายพิเศษเสริมความรู้ทางพระพุทธศาสนาแก่พระนวกะในกรุงเทพมหานครและใกล้เคียง

          – ให้ความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมและประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ องค์การและสมาคมต่างๆ ตลอดทั้งของฝ่ายคณะสงฆ์ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้วยความตั้งใจ และด้วยความเสียสละในทุกโอกาส

            – เป็นวิทยากรบรรยายธรรม อภิปรายธรรม ในโอกาสต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

            – เป็นวิทยากรอบรมนักเรียน หลักสูตรความรู้เบื้องต้น ของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

            – เป็นวิทยากรของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ อบรมผู้ต้องขังในเรือนจำ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

            – เป็นผู้ให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

          – บริจาคทรัพย์ให้การอุปถัมภ์บำรุง สนับสนุน ส่งเสริมในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่หน่วยงานศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใสและทำเป็นประจำ

รางวัลที่เคยได้รับ

          -พ.ศ. ๒๕๐๗    ได้รับพระราชทานเปรียญรัตนาภรณ์

          -พ.ศ. ๒๕๑๓    ได้รับพระราชทานเข็มที่ระลึก

          -พ.ศ. ๒๕๑๔    รางวัลปฏิบัติงานดีเด่น จากรองผู้บัญชาการกองพลทหารอาสาสมัคร

          -พ.ศ. ๒๕๑๗    โล่เกียรติคุณ จากสำนักสนทนาธรรม จังหวัดลพบุรี

          -พ.ศ. ๒๕๒๐    โล่เกียรติคุณ จากผู้บัญชาการกองพลที่ ๒

          -พ.ศ. ๒๕๒๖    โล่เกียรติคุณ จากผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ ๑

          -พ.ศ. ๒๕๒๗    รางวัลศิษย์เก่าดีเด่นแห่งปี จากนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

          -พ.ศ. ๒๕๒๘    รับพระราชทานของที่ระลึกจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

          -พ.ศ. ๒๕๒๘    โล่เกียรติคุณ จากผู้บัญชาการทหารบก

          -พ.ศ. ๒๕๓๐    โล่เกียรติคุณ จากสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา

          -พ.ศ. ๒๕๓๓    รับพระราชทานของที่ระลึกจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

          -พ.ศ. ๒๕๓๓    โล่เกียรติคุณ จากสมเด็จพระญาณสังวร

          -พ.ศ. ๒๕๓๔    ประกาศนียบัตรและโล่เกียรติคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ความเห็นของผู้เสนอ

          พ.อ.แสง สมบุญ เป็นผู้มีความตั้งใจแน่วแน่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชนและเยาวชน ทั้งในด้านการบรรยาย ปาฐกถา อภิปรายธรรม สอนวิชาที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ทั้งเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม ครองตน ครองคน ครองงาน อยู่เป็นประจำ เป็นผลให้เกิดประโยชน์สุขด้านคุณธรรมแก่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป จึงเห็นสมควรยกย่องให้เป็นบุคคลผู้ทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา สาขาเผยแผ่พระพุทธศาสนาภายในประเทศ


พันเอก (พิเศษ) สฤษฏิ์  สิทธิเดช อายุ ๖๗ ปี

พันเอก (พิเศษ) สฤษฏิ์  สิทธิเดช อายุ ๖๗ ปี

ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมกิจการพลเรือนทหารบก

พ.ศ.๒๕๒๕ – ๒๕๒๘

ประเภท  ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๕

………………..

ยศ ชื่อ – สกุล  พันเอก (พิเศษ) สฤษฎิ์  สิทธิเดช

ที่อยู่              บ้านเลขที่ ๑๐๖/๑  หมู่บ้านสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กทม. ๑๐๒๓๐

ชาติภูมิ           ตำบลบ้านตาล อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ

ชาตกาล          ๑๕ ตุลาคม ๒๔๖๘

วุฒิการศึกษา    ม.๘, ป.ธ. ๖

ตำแหน่งหน้าที่การงาน

          – ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

          – ประธานมูลนิธิตามรอยยุคลบาท

          – ประธานชมรมชาวพุทธเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา

          – ประธานชมรมกลุ่มอุโบสถศีล

          พ.ศ. ๒๔๙๘-๒๕๒๙  รับราชการอนุศาสนาจารย์ทหารบก ตำแหน่งสุดท้าย  เป็นผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

          พ.ศ. ๒๕๑๓  ราชการสงคราม กองพลทหารอาสาสมัคร ณ ประเทศสาธารณรัฐเวียดนามใต้ ในตำแหน่งอนุศาสนาจารย์ กองพลอาสาสมัคร       

ปฏิบัติงานพิเศษ 

          – บรรยายถวายความรู้แก่พระสงฆ์ทั่วประเทศ  เรื่อง “ภัยของพระพุทธศาสนา”

          – เปิดหลักสูตรพระวิทยากรเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา (หลักสูตร ๓ วัน) ๘ ครั้ง มีพระสงฆ์เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น ๑,๓๗๓ รูป

          – ได้รณรงค์ชักชวนชาวพุทธทั่วประเทศให้สมาทานรักษาอุโบสถศีล ทุกวันพระ ได้มีชาวพุทธอุบาสกอุบาสิกา แสดงความจำนงจะสมาทานรักษาอุโบสถศีลจำนวนมาก

          – ได้ชักชวนชาวพุทธ ให้สมาทานรักษาอุโบสถศีล ถวายพระราชกุศล แด่สมเด็จ-พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๕ รอบ โดยเริ่มสมาทานรักษาอุโบสถศีล ตั้งแต่ ๑๒ มกราคม ถึง ๒๙ มิถุนายน ๒๕๓๕ (รวม ๒๔ วันพระ) ได้มีผู้แสดงความจำนงสมาทานรักษาอุโบสถศีล จำนวน ๒,๐๐๐ ราย

เรียบเรียงหนังสือ

          – หนังสือพระพุทธศาสนากำลังถูกกลืน

          – หนังสือความมหัศจรรย์แห่งอุโบสถศีล

          – หนังสือเบื้องหลังคริสต์ใช้ศัพท์พุทธ


พันเอก (พิเศษ) ศรีสวัสดิ์  แสนพวง  อายุ  ๕๙ ปี
ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมกิจการพลเรือนทหารบก 
พ.ศ.๒๕๓๔ – ๒๕๓๗

พันเอก (พิเศษ) ศรีสวัสดิ์  แสนพวง  อายุ  ๕๙ ปี

ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมกิจการพลเรือนทหารบก

พ.ศ.๒๕๓๔ – ๒๕๓๗

ประเภท  ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๘

………………..

ยศ ชื่อ – สกุล พันเอก (พิเศษ) ศรีสวัสดิ์  แสนพวง

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๒๘/๕๙  หมู่ ๔ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๗, พ.ม., พธ.บ., กศ.บ.

ตำแหน่งหน้าที่การงาน ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมกิจการพลเรือนทหารบก

          พันเอกศรีสวัสดิ์ แสนพวงได้ปฏิบัติงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน ท่านได้ศึกษาพระพุทธศาสนาจนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปี ได้จัดรายการทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ เช่น รายการ “ธรรมบรรยาย” ทาง วปถ.๑๐ ทุกวันอาทิตย์ รายการ “ธรรมวาที” ที่ วปถ.๕ หาดใหญ่ รายการ “ร่มอาราม” ที่ มก.๔ สงขลา รายการ “ธรรมสาธก” ที่ สวพ.๓ หาดใหญ่ รายการ “ใต้ร่มโพธิ์” ที่ วทถ.๔ หาดใหญ่ และรายการ “ธรรมวารี” ทางโทรทัศน์ ช่อง ๑๐ หาดใหญ่ เดือนละ ๒ ครั้ง นอกจากนี้ ท่านยังสอนนักเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นเลขานุการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก และเป็นบรรณาธิการวารสาร “พุทธศาสตร์” ตลอดจนเป็นผู้อำนวยการ กองอนุศาสนาจารย์ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ท่านเคยได้รับรางวัลเกียรติบัตรผู้บำเพ็ญประโยชน์เกื้อกูลกิจการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

          นับได้ว่า ท่านเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาในด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จึงสมควรประกาศสรรเสริญเกียรติคุณให้ปรากฏเป็นเกียรติประวัติสืบไป


พันตรี อรุณ  นิลสุวรรณ อายุ ๔๘ ปี

อนุศาสนาจารย์ มณฑลทหารบกที่ ๔๒

ประเภท  การศึกษาสงเคราะห์ศูนย์ พศอ. พ.ศ. ๒๕๓๙

………………..

ยศ ชื่อ – สกุล  พ.ต. อรุณ  นิลสุวรรณ

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๑๒๐ หมู่ที่ ๘ ถนนค่ายเสนาณรงค์ ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

วุฒิการศึกษา    พธ.บ., M.A.

ตำแหน่งหน้าที่การงาน ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๑

          – เป็นเลขานุการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ อำเภอหาดใหญ่

          – เป็นผู้ริเริ่มโครงการส่งเสริมศาสนา และศีลธรรมแก่เยาวชนในสถานศึกษาต่างๆ โดยนิมนต์พระวิทยากรไปให้การอบรมในชั่วโมงจริยศึกษาของแต่ละโรงเรียน   ทุกวันศุกร์ครั้งละ ๑ ชั่วโมง มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ๒ โรงเรียน จำนวนนักเรียน ๖,๐๐๐ คน


พันโท บุญยัง  ศรีสมพงษ์ อายุ ๔๘ ปี

พันโท บุญยัง  ศรีสมพงษ์ อายุ ๔๘ ปี

ประเภท  สื่อมวลชนที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๔๐

………………..

ยศ ชื่อ – สกุล พ.ท. บุญยัง  ศรีสมพงษ์

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๒๓๖/๓๓ หมู่ที่ ๕ ถนนนครราชสีมา-ปักธงชัย ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ๓๐๐๐๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๖, กศ.บ.

ตำแหน่งหน้าที่การงาน อนุศาสนาจารย์ กองพลทหารราบที่ ๑๒ จังหวัดนครราชสีมา

          พันโท บุญยัง ศรีสมพงษ์ เป็นผู้มีความรอบรู้และเข้าใจในหลักธรรมพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ในฐานะที่เคยคลุกคลีอยู่กับพระพุทธศาสนา และเมื่อได้  เข้ารับราชการในตำแหน่งอนุศาสนาจารย์ ประจำกองทัพบกเป็นต้นมา ได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งและเป็นวิทยากรบรรยายเผยแผ่หลักธรรมทางสื่อมวลชนด้านวิทยุกระจายเสียงตลอดมา ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๖ จนถึงปัจจุบัน ตามสถานีวิทยุท้องถิ่นต่างๆ ที่ย้ายไปรับราชการ เช่น สถานีวิทยุ ส.ว.พ. หาดใหญ่ (วิทยุตำรวจ) ว.ป.ถ.๔ (วิทยุทหาร) ม.ก.๔ (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) สถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๐ หาดใหญ่ สถานีวิทยุค่ายอดิศรทหารม้า สระบุรี สถานีวิทยุค่ายจักรพงษ์ ปราจีนบุรี

          นับว่าเป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ในฐานะที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนด้านวิทยุกระจายเสียงอันสำคัญ


พันเอก ประทัย  โกศลกุล อายุ ๗๑ ปี

พันเอก ประทัย  โกศลกุล อายุ ๗๑ ปี

ประเภท  ผู้ประกอบอาชีพที่มีคุณธรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๔๐

………………..

ยศ ชื่อ – สกุล  พ.อ. ประทัย  โกศลกุล

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๑/๕๘ ถนนพัฒนาการคูขวาง ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ๘๐๐๐๐

วุฒิการศึกษา    ศน.บ.

ตำแหน่ง เจ้าของ บริษัท โกโก้ดีไซน์ จำกัด

          พันเอก ประทัย โกศลกุลเป็นผู้ทำงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนา จัดตั้งมูลนิธิพระสัมพุทธมงคลศรีทักษิณ นำดอกผลมาเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี ปีละประมาณ ๒๕-๓๕ ทุน นำนักเรียนไปร่วมกิจกรรมวันสำคัญ ทางศาสนาเป็นประจำทุกครั้ง พร้อมทั้งได้ตั้งศูนย์จริยศึกษาสำหรับเยาวชน เปิดสอนธรรมศึกษาและสอนเสริมวิชาอื่นๆ มีนักเรียนเข้าเรียนปีละประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ คน นอกจากเรื่องการศึกษาแล้ว ยังเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคีวัดต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงอีก ทำกิจกรรมหลายสาขา เข้าไปช่วยเหลือทั้งหมด เช่น งานสมาคม องค์การมูลนิธิ สถาบันต่างๆ อย่างกว้างขวาง สมควรยกย่องเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีตลอดไป


พันตรี ชรินทร์  จุลคประดิษฐ์  อายุ ๔๐ ปี

พันตรี ชรินทร์  จุลคประดิษฐ์  อายุ ๔๐ ปี

ประเภท  ส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๔๐

………………..

ยศ ชื่อ –สกุล   พ.ต. ชรินทร์  จุลคประดิษฐ์

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๓๒๑/๑๒ หมู่ที่ ๑ บ้านกุดจิก ถนนสุขาภิบาล ๑๔ ตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ๓๐๓๘๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๙, พธ.บ.

ตำแหน่ง อนุศาสนาจารย์ กองบัญชาการช่วยรบที่ ๒ ค่ายสุรนารี

          พันตรี ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ ได้ส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์ โดยเป็นอาจารย์สอนพิเศษพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ป.ธ.๗-๘-๙ ประจำสำนักเรียนวัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ได้ใช้เวลานอกเวลาราชการและวันหยุด มีความตั้งใจมุ่งมั่นหวังความรู้แก่ภิกษุสามเณร จนมีผู้สอบได้ถึงประโยค ป.ธ.๙ นับแต่ปี ๒๕๓๐   เป็นต้นมา ถึงปัจจุบันไม่น้อยกว่า ๑๘ รูป นอกจากนี้ ยังได้ใช้เวลาว่าง เป็นอนุกรรมการยกร่างหลักสูตรโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาของกรมวิชาการและเขียนตำราเรียนวิชาบาลี หลักสูตรชั้นบาลีอุดมศึกษาของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และในการที่ได้ถวายทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร ผู้สอบไล่ได้นักธรรมและเปรียญธรรม เพื่อเป็นกำลังใจเป็นประจำทุกปี ถวายอุปกรณ์การเรียนการสอนแก่พระภิกษุสามเณรนักเรียนวัดต่างๆ บางครั้งได้นิมนต์พระภิกษุสามเณรนักเรียนไปศึกษาค้นคว้าบทเรียนและวิชาการพระพุทธศาสนาที่บ้านพักด้วย พร้อมถวายภัตตาหารเช้า-เพล พร้อมได้นำข้าราชการในหน่วย และครอบครัวร่วมปฏิบัติธรรมเทิดพระเกียรติในโอกาสต่างๆ  อีกด้วย จึงเห็นได้ว่า พันตรี ชรินทร์ จุลคประดิษฐ์ ได้เสียสละเวลาอันมีค่าเพื่อส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์ ในส่วนการศึกษาวิชาการทางพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง


ร้อยเอก อุส่าห์  ทุมมา อายุ ๖๖ ปี

ประเภท  ผู้ประกอบอาชีพที่มีคุณธรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๔๒

………………………………..

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๕๙/๑๖๕ หมู่ที่ ๓ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๙, ศน.บ., น.บ., น.บ.ท.,

          ร้อยเอก อุส่าห์  ทุมมา เป็นเลขาธิการพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานด้านนโยบายและธุรการของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการและอนุกรรมการ  ในงานพิธีทางพระพุทธศาสนา กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและจริยธรรมของส่วนราชการและเอกชน อีกทั้งยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการศูนย์ประสานงานกลางองค์การเอกชนต่อต้านยาเสพติดอีกด้วย จากการปฏิบัติหน้าที่     ด้วยความเสียสละโดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ มาโดยตลอด สมควรได้รับการยกย่อง    ให้เป็นแบบอย่างต่อไป


พันเอก สำราญ  ก้านพลูกลาง อายุ ๕๙ ปี

ประเภท  แต่งหนังสือพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๔๓

………………………………

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๒๒๓/๑ ถนนเดชอุดม ซอย ๒๒ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ๘๐๐๐๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๙, พ.ม.

ตำแหน่ง  อนุศาสนาจารย์ กองทัพภาคที่ ๒

          พันเอก สำราญ ก้านพลูกลาง เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ในการเขียนบทความเผยแพร่ในวารสาร และบรรยายธรรมออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา ทุกวันพระ และทางสถานีวิทยุกระจายเสียง กองทัพภาคที่ ๒ ทุกวันพุธ ทำให้กำลังพลในหน่วยและประชาชนทั่วไป เกิดความสนใจในหลักธรรมและเข้าใจหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาดีขึ้น อันเป็นผลดีต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม และได้จัดพิมพ์บทความดังกล่าว รวมอยู่ในเล่มเดียวกันเผยแพร่แก่ผู้สนใจทั่วไป นับว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ได้อุทิศแรงกายแรงใจและสามารถส่งเสริมหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทางวารสารและหนังสือ จึงสมควรยกย่องให้ปรากฏเกียรติประวัติสืบไป


พันเอก บุญชู  ศรีเคลือบ อายุ ๖๓ ปี

ประเภท  ส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๕๒

………………………….

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๕๑/๔๑๖ หมู่ที่ ๙ ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ๑๒๑๕๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๗, พธ.บ.

ตำแหน่ง  เลขาธิการเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ กรรมการบริหารมูลนิธิเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ และกรรมการสมาคมสันนิบาตสมาคมแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)

          พันเอก บุญชู ศรีเคลือบเป็นวิทยากรบรรยายถวายความรู้พระนวกะในระหว่างพรรษา ที่ศูนย์อบรมพระนวกะในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เป็นวิทยากรและจัดวิทยากรบรรยาย อบรมศีลธรรมในสถานศึกษาร่วมกับพระวิทยากร ตามโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีนักเรียนและครูอาจารย์เข้ารับการฝึกอบรม ปีละประมาณ ๑๓,๐๐๐ คน เป็นวิทยากรบรรยายแก่พระนวกะ นักเรียนเข้าค่ายคุณธรรม และนักโทษชั้นดีที่เข้าอบรมก่อนปลดปล่อย รุ่นละ ๓ วัน มีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ ๑,๕๐๐ รูป/คน นำเยาวชน ข้าราชการ ทหาร และพุทธศาสนิกชนทั่วไป แสดงตนเป็นพุทธมามกะ บริจาคทรัพย์สร้างศาลาการเปรียญ และหน้ามุขบันไดวัดดอนแตง      สร้างศาลาวัดเสาธงทอง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด บริจาคทรัพย์พิมพ์หนังสือคู่มือปฏิบัติศาสนพิธีถวายพระสงฆ์ วัด ห้องสมุด และประชาชนทั่วไป ๒,๐๐๐ เล่ม


พันเอก ประชุม  สุขสำราญ อายุ ๕๕ ปี

ประเภท  ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๔

…………………………….

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๒๕/๑๑๒ หมู่ที่ ๓ ตำบลป่าตาล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ๑๕๐๐๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๘, พธ.บ.

ตำแหน่ง   อนุศาสนาจารย์หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี

          พันเอกประชุม สุขสำราญ  ได้อุปถัมภ์ สนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ โดยจัดโครงการและกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ จัดรายการบรรยายธรรมทางสถานีวิทยุชุมชน FM.๙๕ ของจังหวัดลพบุรี เขียนบทความธรรมะ  เผยแผ่ธรรมะ และจัดรายการเสียงธรรมนำสุขในค่ายทหาร เวลา ๐๖.๐๐-๐๗.๐๐ น. ทุกวัน เป็นวิทยากรบรรยายธรรม เช่น บรรยายให้ความรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม  ด้านศาสนพิธี ด้านการเจริญจิตภาวนา แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ และวัดต่างๆ บรรยายธรรมแก่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชน ณ วัดบุดดา วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี และวัดตาลเอน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรยายเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมและการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี บรรยายธรรมแก่พระภิกษุสามเณรภาคฤดูร้อน และเยาวชนในค่ายพุทธบุตร เป็นประจำ


พันเอก (พิเศษ) วิสิทธิ์  วิไลวงศ์  อายุ ๕๘ ปี

ประเภท  ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๑

…………………………….

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๔๑/๕๐๘ ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๘, พธ.บ., อ.ม.

ตำแหน่ง  ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

หลักการทำงาน

          ศึกษางานที่ทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ลงมือทำให้ต่อเนื่อง สัมฤทธิผลด้วยความอดทน รอบคอบ เอาใจใส่ ไม่ทิ้งงานให้คั่งค้าง ทำงานด้วยความมีสติสัมปชัญญะ ฝึกสติใส่สติเข้าไปในกิจที่ทำ ทุกอิริยาบถเพื่อให้การทำงานและการปฏิบัติธรรม ดำเนินควบคู่กันไป สามารถมีความสุข ควบคู่กับการทำงาน

สรุปผลงานสำคัญ

          – พ.ศ. ๒๕๔๐-ปัจจุบัน ได้ไปอำนวยการ อบรมสั่งสอน บรรยายธรรม        ปลูกฉันทะวิริยะ แนะนำ และนำปฏิบัติธรรมในโครงการปฏิบัติธรรมของกองทัพบกอย่างเต็มที่ ซึ่งมีประชาชนทั่วไปเข้าร่วมสมทบด้วย ทุกรุ่น รวม ๒๑ ปีๆ ละ ๘ รุ่น เฉลี่ยรุ่นละ ๒๐๐ คน รวมจำนวนผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมแล้ว ๓๗,๘๐๐ กว่าคน

          – พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗ ได้ไปถวายความรู้ ปลูกศรัทธาและฉันทะต่อการปฏิบัติธรรม แก่พระนวกะในโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ทุกรุ่น รวม ๗ ปีๆ ละ ๒ รุ่น เฉลี่ยรุ่นละ ๑๓๐ รูป และ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จำนวน ๑,๓๐๐ รูป รวมจำนวนผู้อุปสมบท ๓,๑๒๐ กว่ารูป

          – พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ได้ไปอำนวยการช่วยการฝึกอบรมปฏิบัติธรรมของนักเรียนเตรียมทหาร รวม ๕ ปีๆ ละ ๑ รุ่น รวม ๖๐๐ คน

ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์

            – พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ไปถวายความรู้ และนำการปฏิบัติธรรมแก่สามเณรภาคฤดูร้อนของวัดป่างิ้ว ณ สวนสานศิลป์สานธรรม บ้านโป่งเทวี ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า          จ.เชียงราย จำนวน ๘๐ รูป

            – พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้ไปอบรม บรรยายธรรม และนำปฏิบัติธรรม ตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ในโครงการบำบัดพื้นฟูผู้ต้องขังติดยาเสพติด ด้วยกระบวนการลูกเสือ รุ่นที่ ๒ จำนวนผู้ต้องขัง ๔๓๐ คน ณ โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองราชทัณฑ์ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง    ในวันที่ ๑๓-๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐


พันเอก ดร.ณรงค์  ครองแถว  อายุ ๗๔ ปี

พันเอก ดร.ณรงค์  ครองแถว  อายุ ๗๔ ปี

ประเภท  สงเคราะห์ประชาชนและส่งเสริมการพัฒนาชุมชน

โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๖๒

สาขาสงเคราะห์ประชาชนและชุมชน

………………..

ยศ ชื่อ –สกุล   พ.อ. ดร.ณรงค์  ครองแถว

ที่อยู่    บ้านเลขที่ ๑๙๙/๓๔ หมู่ที่ ๔ ถ.กรุงเทพ-ปทุมธานี ต.บางเดื่อ  อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ๑๒๐๐๐      โทร ๐๘-๑๗๖๓-๒๙๔๗

วุฒิการศึกษา    ป.ธ.๘, พม., พธ.บ., พธ.ม., พธ.ด.

อาชีพ ข้าราชการบำนาญ

หน้าที่ที่สำคัญ

          -พ.ศ. ๒๕๕๗ – ปัจจุบัน  : กรรมการมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ

          -พ.ศ. ๒๕๕๗  -ปัจจุบัน : สมาชิกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย

          -พ.ศ. ๒๕๖๐ – ปัจจุบัน : ประธานชมรมศิษย์วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร สมัยที่ ๒


พันเอก ศรีสวัสดิ์  แสนพวง

พันเอก ศรีสวัสดิ์  แสนพวง

ได้รับคัดเลือกเป็น “ครูในดวงใจของนักเรียนพยาบาล”

ปีการศึกษา ๒๕๔๓ – ๒๕๔๕จากวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก


พันเอก บัณฑิต  นันทเสนา

รับรางวัลผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น จาก พลเอก สุรยุทธ  จุลานนท์ องคมนตรี

ในโอกาสวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๓

………………………….

          กระทรวงวัฒนธรรมจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2553 เพื่อประกาศยกย่อง  เชิดชูเกียรติผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น และรณรงค์กระตุ้นให้คนไทยอนุรักษ์และใช้ภาษาไทย ได้อย่างถูกต้อง

        พลเอกสุรยุทธ  จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลในงานวันภาษาไทยแห่งชาติ เมื่อ 29 กรกฎาคม พุทธศักราช 2553 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรม   แห่งประเทศไทย โดยมีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวรายงานถึงการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ รวมถึงการดำเนินการสรรหาและ    ยกย่องผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น เพื่อเข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรติผู้ใช้ภาษาไทยได้อย่างเหมาะสม ซึ่งในปีนี้มีอดีตอนุศาสนาจารย์ คือ พันเอก บัณฑิต  นันทเสนา เข้ารับรางวัลด้วย


พันเอก (พิเศษ) วิสิทธิ์  วิไลวงศ์

รับพระราชทานรางวัลลูกกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่

ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๑

…………………………………….

ประเภท          ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ

อายุ               ๕๙ ปี

ศาสนา           พุทธ

ที่อยู่              ๔๑/๕๐๘ ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต  กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐

โทรศัพท์         ๐๙-๕๓๖๕-๐๘๖๗

การศึกษา        ปริญญาโท  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาชีพ             รับราชการทหาร ตำแหน่ง  ผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก

เกียรติคุณ

          พันเอก วิสิทธิ์  วิไลวงศ์  มีพี่น้องจำนวน ๙ คน รับรู้ถึงความลำบาก ความทุกข์ของบิดามารดา มาตั้งแต่เด็ก จึงตั้งใจที่จะดูแลบิดามารดาให้ดีที่สุด ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้วยการบรรพชาเป็นสามเณร อุปสมบทเป็นพระ เพื่อจะไม่ต้องรบกวนค่าใช้จ่าย      ของบิดามารดา สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม ๘ ประโยค ประโยคครูพิเศษการศึกษา (พกศ.) ประโยคครูพิเศษมัธยม (พม.) พุทธศาสตรบัณฑิต ได้เกียรตินิยมอันดับ ๑ และอักษรศาสตร์มหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และหลักสูตร ตามแนวทางรับราชการทหารอีกหลายหลักสูตร พันเอก วิสิทธิ์ วิไลวงศ์ เริ่มรับราชการตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๑  ได้รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายของบิดามารดามาโดยตลอด เมื่อครั้งบิดามีอาการป่วยต้องผ่าตัดสมอง ได้ช่วยมารดาดูแลบิดาอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยแบ่งเบางานของมารดา พามารดาไปเข้าวัด ฟังธรรม รักษาศีล อำนวยความสะดวกและแนะนำการปฏิบัติธรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่พระวิปัสสนาจารย์ได้ สั่งสอน  เพื่อให้มารดาได้เข้าใจและปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้น เมื่อมีเวลาว่างจากการทำงานจะพาครอบครัวไปเยี่ยมมารดาทุกครั้ง ช่วยดูแลความเรียบร้อยในบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้มารดาและรู้สึกปลอดภัย

          พันเอก วิสิทธิ์ ได้สอบเป็นอนุศาสนาจารย์ทหารบก ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนศีลธรรมแก่ ทหาร ตำรวจ ครอบครัวทหาร และประชาชนทั่วไป ปฏิบัติธรรมด้วยวิปัสสนากรรมฐาน ส่งเสริมการพัฒนาจิตใจควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านร่างกาย และผลสำเร็จจากการที่ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรมในฐานะผู้อำนวยการอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก ทำให้มีโอกาสได้ไปสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่พระสงฆ์อุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ สามเณรภาคฤดูร้อนและไปนำการปฏิบัติธรรมของโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองของกรมราชทัณฑ์ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นผู้มีความตั้งใจ เสียสละ ทุ่มเทอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา จากเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้รับเกียติบัตร เป็นผู้รับราชการที่ดีงาม จากชมรมอนุศาสนาจารย์ไทย ได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของครอบครัว

          จากประวัติและคุณสมบัติของ พันเอก วิสิทธิ์ วิไลวงศ์ สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการยกย่องสรรเสริญให้เป็นลูกกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ ในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๑