พิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

พิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

( พิธีวันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, และวันอาสาฬหบูชา, อัฐมีบูชา )

วัตถุประสงค์

          ๑. เพื่อให้พุทธศาสนิกชนรู้ เข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

          ๒. เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถวิเคราะห์หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และนำหลักธรรมดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

          ๓. เพื่อให้พุทธศาสนิกชน รู้ เข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติพิธีในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

          ๔. เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ให้ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยและสังคมโลกต่อไป

การเตรียมการ

          – ตั้งโต๊ะหมู่บูชาพร้อมเครื่องสักการะ

          – ดอกไม้ธูปเทียนหรือโคมไฟ (สำหรับผู้ใหญ่ใช้เวียนเทียน)

สถานที่

          – บริเวณหน้าพระอุโบสถ หน้าอุโบสถ หน้าวิหาร บริเวณลานพระเจดีย์ หรือหอพระ

          – บริเวณที่เกี่ยวข้องกับสังเวชนียสถานอื่น ๆ

การปฏิบัติ

ผู้ร่วมพิธี         

          – พร้อม ณ บริเวณที่กำหนด (ยืนเป็นแถวให้เหมาะสมกับสถานที่)

ประธานในพิธี  

          – จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย

          – กราบพระ ถวายไทยธรรม แล้วกลับไปยืนหน้าแถว

อศจ.  

          – นิมนต์พระให้โอวาทโดยสังเขป เมื่อจบแล้ว ผู้ร่วมพิธีทั้งหมดเปล่งเสียง “สาธุ” พร้อมกัน

          – นำไหว้พระสวดมนต์ (อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา… อิติปิโส ภะคะวา….สวากขาโต…สุปะฏิปันโน.)

          – นำกล่าวคำบูชา (กล่าว นโม ๓ จบก่อน)

          – นำกล่าวแผ่เมตตา

          สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย จงมีความสุขภายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

นำกล่าวคำอุทิศส่วนกุศล

          ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญด้วยกายวาจาใจนี้ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระประมุขของชาติไทย ซึ่งเป็นอัครศาสนูปถัมภก และให้แก่ท่านผู้มีพระคุณ มีมารดาบิดา ครูอาจารย์ ตลอดจนท่านที่ได้ทำนุบำรุงประเทศชาติ ศาสนาเป็นต้น

          จบแล้วเชิญประธานเดินนำเวียนเทียนรอบปูชนียสถาน

ประธาน

          – ออกเดินนำขบวนเวียนเทียนรอบพระอุโบสถหรือปูชนียสถานนั้น ๆ จนครบ ๓ รอบ วางเครื่องสักการะ ณ ที่จัดเตรียมไว้

          – เสร็จพิธี

หมายเหตุ

          – พิธีประกอบการบูชาทั้ง ๓ วัน จัดเหมือนกันจะต่างกันก็เฉพาะคำบูชาในวันนั้น ๆ เท่านั้น

          – คำบูชาที่พิมพ์ในหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาไทยที่แปลจากภาษาบาบีคำต่อคำ หากจะย่อให้สั้นเอาเฉพาะใจความสำคัญเพื่อให้เหมาะสมกับเวลาประกอบพิธีก็ได้

          – การประกอบพิธีให้ครบทุกขั้นตอน ต้องสวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยทั้งภาษาบาลีและสวดทำนองสรภัญญะในภาษาไทย โดยประธานฯ จะนำสวดหรือจะให้พิธีกรนำสวดก็ได้

          – การประกอบพิธีจะทำเวลาใดก็ได้ไม่มีข้อกำหนด

          – ขณะเวียนเทียนจะจุดธูปเทียนหรือไม่ก็ได้ ถ้าจุดจะต้องระมัดระวังทั้งในขณะเดินและในขณะปักธูปเทียนหลังจากการเวียนเทียนด้วย เพราะอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลข้างเคียงหรือสถานที่ได้

          – การประเคนเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ผู้ให้โอวาทจะประเคนถัดจาก ประธานฯ จุดธูปเทียนบูชาพระ กราบพระแล้ว หรือหลังจากเสร็จพิธีเวียนเทียนแล้วก็ได้ตามโอกาสและจังหวะที่จะอำนวยและเหมาะสม

คำบูชาในวันมาฆบูชา

         เราทั้งหลาย นับถือพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด เป็นศาสดาของเราทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ

ทรงดำเนินดีแล้ว ทรงรู้แจ้งซึ่งโลก เป็นสารถีผู้ฝึกคนที่ควรผึก เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกแจกพระธรรม

          อนึ่ง พระธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่เห็นได้ด้วยตนเอง มีผลไม่จำกัดเวลา เป็นของจริงที่จะเรียกกันมาดูได้ เป็นความดีที่จะน้อมนำเข้ามาในตนได้ อันวิญญูชนรู้แจ้งได้จำเพาะตน

          อนึ่ง พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติน่านับถือ นี้คือพระอริยบุคคลสี่คู่ นับเรียงองค์เป็นแปด มีพระโสดาบันเป็นต้น ก็แล ปูชนียวัตถุนี้ สร้างอุทิศพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เพื่อได้เห็นแล้วระลึกถึงพระองค์ ได้ความเลื่อมใส และสังเวช

          บัดนี้ เราทั้งหลาย มาถึงกาลมาฆปุณณมีนี้ ซึ่งตรงกับวันทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ในที่ชุมนุมสงฆ์สาวกประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ เราทั้งหลายมาถึงพร้อมกัน ณ ที่นี้ ถือเครื่องสักการะมีประทีปธูปเทียนเป็นต้น กระทำกาย   ของตน ๆ ให้เป็นภาชนะรองรับเครื่องสักการะ จักระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ กระทำประทักษิณปูชนียวัตถุนี้ ๓ รอบ ทำการบูชาด้วยเครื่องสักการะที่ถือไว้นี้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น กับพระสงฆ์สาวก แม้เสด็จปรินิพพานนานแล้ว แต่ยังดำรงอยู่โดยพระคุณทั้งหลาย อันบัณฑิตพึงรู้ได้ จงทรงรับเครื่องสักการะที่ข้าพเจ้าทั้งหลายถือไว้แล้วนี้ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนาน เทอญ.

คำบูชาในวันวิสาขบูชา

          เราทั้งหลาย นับถือพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด เป็นศาสดาของเราทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว ถึงพร้อมด้วยวิชชา และจรณะ ทรงดำเนินดีแล้ว ทรงรู้แจ้งซึ่งโลก เป็นสารถีผู้ฝึกคนที่ควรฝึก เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกแจกพระธรรม

          อนึ่ง พระธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่เห็นได้ด้วยตนเอง มีผลไม่จำกัดเวลา เป็นของจริงที่จะเรียกกันมาดูได้ เป็นความดีที่จะน้อมนำเข้ามาในตนได้อันวิญญูชนรู้แจ้งได้จำเพาะตน

          อนึ่ง พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติน่านับถือ นี้คือพระอริยบุคคลสี่คู่ นับเรียงองค์เป็นแปด มีพระโสดาบันเป็นต้น

          ก็แล ปูชนียวัตถุนี้ สร้างอุทิศพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เพื่อได้เห็นแล้วระลึกถึงพระองค์ ได้ความเลื่อมใส และสังเวช

          บัดนี้ เราทั้งหลาย มาถึงกาลวิสาขปุณณมีนี้ ซึ่งตรงกับวันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพาน แห่งพระผู้มี   พระภาคเจ้าพระองค์นั้น จึงมาพร้อมกัน ณ ที่นี้ ถือเครื่องสักการะมีประทีปธูปเทียนเป็นต้น กระทำกายของตน ๆ ให้เป็นภาชนะรองรับเครื่องสักการะ จักระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ กระทำประทักษิณปูชนียวัตถุนี้ ๓ รอบ ทำการบูชาด้วยเครื่องสักการะที่ถือไว้นี้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น แม้เสด็จปรินิพพานนานแล้ว แต่ยังดำรงอยู่โดยพระคุณทั้งหลาย อันบัณฑิตพึงรู้ได้ จงทรงรับเครื่องสักการะที่ข้าพเจ้าทั้งหลายถือไว้แล้วนี้ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข  แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนาน เทอญ.

คำบูชาในวันอาสาฬหบูชา

          เราทั้งหลาย นับถือพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด   เป็นศาสดาของเราทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ   ทรงดำเนินดีแล้ว ทรงรู้แจ้งซึ่งโลก เป็นสารถีผู้ฝึกคนที่ควรฝึก เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกแจกพระธรรม

          อนึ่ง พระธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นธรรมที่เห็นได้ด้วยตนเอง มีผลไม่จำกัดเวลา  เป็นของจริงที่จะเรียกกันมาดูได้ เป็นความดีที่จะน้อมนำเข้ามาในตนได้ อันวิญญูชนรู้แจ้งได้จำเพาะตน

          อนึ่ง พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติน่านับถือ  นี้คือพระอริยบุคคลสี่คู่ นับเรียงองค์เป็นแปด มีพระโสดาบันเป็นต้น

          ก็แล ปูชนียวัตถุนี้ สร้างอุทิศพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เพื่อได้เห็นแล้วระลึกถึงพระองค์ ได้ความเลื่อมใส  และสังเวช

          บัดนี้ เราทั้งหลาย มาถึงกาลอาสาฬหปุณณมีนี้ คล้ายวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงเริ่มประกาศ พระศาสนาขึ้นในโลก ทรงแสดงพระธรรมจักรอันประเสริฐแก่พระเบญจวัคคีย์ และวันนั้นได้มีพระอริยสงฆ์องค์แรกอุบัติขึ้นในโลก เป็นวันที่พระรัตนตรัยสมบูรณ์ครบทั้ง ๓ ประการ จึงมาพร้อมกัน ณ ที่นี้ ถือเครื่องสักการะมีประทีปธูปเทียนเป็นต้น กระทำกายของตน ๆ ให้เป็นภาชนะรองรับเครื่องสักการะ จักระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ กระทำประทักษิณปูชนียวัตถุนี้ ๓ รอบ ทำการบูชาด้วยเครื่องสักการะที่ถือไว้นี้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น แม้เสด็จปรินิพพานนานแล้ว แต่ยังดำรงอยู่โดยพระคุณทั้งหลาย อันบัณฑิตพึงรู้ได้ จงทรงรับเครื่องสักการะที่ข้าพเจ้าทั้งหลายถือไว้แล้วนี้ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนาน เทอญ.