การปฏิบัติธรรมในเทศกาลเข้าพรรษา

          กรมกิจการพลเรือนทหารบก  ได้ขออนุมัติกองทัพบกนำกำลังพลของหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ผู้สนใจไปปฏิบัติธรรมเพื่อสร้างคุณค่าชีวิตให้สูงขึ้น ไปปฏิบัติธรรม  ณ  วัดอัมพวัน  อำเภอพรหมบุรี  จังหวัดสิงห์บุรี  รวม ๕ รุ่น จำนวนรวมทั้งสิ้น ๔๙๑ คน ปรากฏว่าทุกคนที่ร่วมปฏิบัติธรรมได้ประจักษ์ด้วยตนเองว่า ได้พบแสงสว่างแห่งชีวิต ซึ่งไม่เคยได้รับมาก่อนเลย

          กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้พิจารณาเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมจิตวิทยาของประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่ง มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและสภาพทางจิตใจของกำลังพลเป็นอันมาก หากกำลังพลมิได้เรียนรู้กรรมวิธีการควบคุมจิตใจอย่างมั่นคงแล้ว อาจประกอบพฤติกรรมในทางเสียหายแก่ตนเอง ครอบครัว และหน่วยได้ ในสถานการณ์สังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ หากกำลังพลได้รับการฝึกจิตโดยการปฏิบัติธรรม ย่อมเป็นมาตรการสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตได้อย่างดียิ่ง จึงได้ขออนุมัติหลักการจากกองทัพบก เพื่อนำกำลังพลของหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกไปปฏิบัติธรรม ณ  วัดอัมพวัน  อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นโครงการต่อเนื่อง และได้รับอนุมัติจากกองทัพบก เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๒๙ ตามหนังสือ กร.ทบ. ที่ กห ๐๔๐๕/๘๘๓  ลง ๒๓ พ.ค.๒๙  และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

          ปัจจุบันโครงการปฏิบัติธรรมในเทศกาลเข้าพรรษา  เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมยุทธศึกษาทหารบก โดยมอบให้กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบกดำเนินการ

          ๑. การปฏิบัติ

              ๑.๑ ห้วงระยะเวลา : ในเทศกาลเข้าพรรษา ๓ เดือน ของทุกๆ ปี  ปีละ ๓ รุ่น ๆ ละ ๗ วัน

              ๑.๒ สถานที่ : วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จว.สิงห์บุรี

              ๑.๓ อาหารและอื่นๆ : ผู้เข้ารับการปฏิบัติธรรมเสียค่าบริการตามที่กำหนด เพื่อมอบให้ กับทางวัดเป็นค่าอาหารเช้า – กลางวัน, น้ำปานะ และอื่น ๆ

              ๑.๔ สถานที่พักพร้อมอุปกรณ์ ทางวัดจัดบริการให้  ส่วนเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัว และผ้าห่มนอน  เป็นต้น ผู้สมัครเข้ารับการปฏิบัติธรรมต้องจัดไปเอง

              ๑.๕ ผู้เข้ารับการปฏิบัติธรรม : นายทหาร, นายสิบ, ลูกจ้าง  และคนงานของทัพบก

              ๑.๖ ผู้เข้ารับการปฏิบัติธรรม ต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับหน่วยต้นสังกัด

              ๑.๗ ให้ถือว่า ผู้ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับหน่วยต้นสังกัด และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ทุกคนไปราชการ เช่นเดียวกับการไปราชการทั่วๆ ไป

          ๒. การปฏิบัติของหน่วยที่เกี่ยวข้อง

                    ๒.๑ กรมยุทธศึกษาทหารบก

                          ๒.๑.๑ ประสานการปฏิบัติกับทางวัดและหน่วยที่เกี่ยวข้อง

                          ๒.๑.๒ จัดอนุศาสนาจารย์เป็นเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติ

                          ๒.๑.๒ ขอรับการสนับสนุนอนุศาสนาจารย์จากหน่วยที่มีกำลังพลเข้าปฏิบัติธรรมในรุ่นนั้นๆ ร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ตามเหมาะสม

                          ๒.๑.๓ จัดเจ้าหน้าที่ไปทำข่าวออกเผยแพร่กิจกรรมพิเศษของกองทัพบก

                    ๒.๒ กรมการขนส่งทหารบก

                          ๒.๒.๑ จัดพาหนะรับ – ส่งกำลังพลพร้อมเจ้าหน้าที่พลขับ

                          ๒.๒.๒ ประสานการใช้ สป.๓ กับ กรมพลาธิการทหารบก

                    ๒.๓ กรมแพทย์ทหารบก

                          ๒.๓.๑ จัดรถพยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่พลขับ รุ่นละ ๑ นาย

                          ๒.๓.๒ จัดนายสิบพยาบาล  รุ่นละ ๑ นาย

                          ๒.๓.๓ ประสานการใช้ สป.๓ กับ กรมพลาธิการทหารบก

                    ๒.๔ มณฑลทหารบกที่ ๑๓ จัดทหารสารวัตรเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม

          ๓. ระเบียบปฏิบัติประจำวัน  ปฏิบัติตามระเบียบ ของวัดอัมพวัน ดังนี้

          เวลา    ๐๔๐๐ –  ตื่นนอน ทำกิจส่วนตัว

                    ๐๔๓๐ –  ทำวัตรสวดมนต์

                    ๐๕๐๐ –  ชี้แจงการปฏิบัติ, ฝึกอบรมฯ, เดินจงกรม และเจริญจิตภาวนา

                    ๐๗๐๐ –  รับประทานอาหารเช้า

                    ๐๘๓๐ –  ฝึกอบรมฯ เดินจงกรม  และเจริญจิตภาวนา

                    ๑๑๐๐ –  รับประทานอาหารกลางวัน

                    ๑๓๐๐ –  ฝึกอบรมฯ เดินจงกรม และเจริญจิตภาวนา

                    ๑๖๐๐ –  ดื่มน้ำปานะ, ทำกิจส่วนตัว

                    ๑๘๐๐ –  ทำวัตรสวดมนต์, ฝึกอบรมฯ, เดินจงกรม และเจริญจิตภาวนา

                    ๒๑๐๐ –  พักผ่อน, เข้านอน