อนุศาสนาจารย์ ต้องรับผิดชอบในการสอนวิชาการศาสนาและศีลธรรมในหลักสูตรต่างๆ ดังนี้
๑. หลักสูตรนายทหารอนุศาสนาจารย์ชั้นต้น
เป็นหลักสูตรตามแนวทางรับราชการของนายทหารอนุศาสนาจารย์ (เทียบเท่าหลักสูตรชั้นนายร้อย) ระยะเวลาการศึกษา ๑๓ สัปดาห์
๒. หลักสูตรนายทหารอนุศาสนาจารย์ชั้นสูง
เป็นหลักสูตรตามแนวทางรับราชการของนายทหารอนุศาสนาจารย์ (เทียบเท่าหลักสูตรชั้นนายพัน) ระยะเวลาการศึกษา ๑๗ สัปดาห์
กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก มีหน้าที่กำกับดูแลการเรียนการสอนของหลักสูตรตามแนวทางรับราชการของนายทหารอนุศาสนาจารย์ทั้ง ๒ หลักสูตร ให้เป็นไปตามระเบียบของกองทัพบก จัดอนุศาสนาจารย์เข้าสอนในวิชาหลัก และติดต่อขออาจารย์จากเหล่า/สายวิทยาการช่วยสอนในวิชาที่เหลือ
๓. หลักสูตรการปฐมนิเทศนายทหารอนุศาสนาจารย์บรรจุใหม่
เป็นหลักสูตรอบรมเพิ่มเติมความรู้สำหรับนายทหารอนุศาสนาจารย์ที่บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก ระยะเวลาการศึกษา ๔ สัปดาห์
๔. หลักสูตรการพัฒนาบุคลากรกองทัพบก
ปีพุทธศักราช ๒๕๒๖ กรมยุทธศึกษาทหารบก ได้อนุมัติให้อนุศาสนาจารย์ทหารบก เข้าค่ายฝึกฝนพัฒนาทางจิต จำนวนทั้งสิ้น ๓ รุ่นๆ ละ ๗ วัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการการพัฒนาบุคลากรกองทัพบก ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ ได้มีการจัดส่งกำลังพลเข้ารับการฝึกปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยการอนุมัติของผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น การอบรมตามโครงการพัฒนาบุคลากรกองทัพบกจึงได้พัฒนามาตามลำดับ
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ กองทัพบก ได้อนุมัติให้หลักสูตรการพัฒนาบุคลากรกองทัพบกเป็นหลักสูตรทางการศึกษาอบรมของกองทัพบก หมายเลขหลักสูตร ๑๖ – ข – ฉ.๒ และได้เป็นหลักสูตรทางการศึกษาอบรมมาจนถึงปัจจุบัน
กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบก มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดบุคลากร ของกองทัพบกทุกระดับชั้นยศให้เข้ารับการศึกษาอบรมในหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรกองทัพบก ณ ศูนย์พัฒนาจิตใจกำลังพลกองทัพบก วัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ตามอนุมัติของกองทัพบก เป็นปีๆ ไป ดังนี้
๔.๑ ความมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรม ได้เรียนรู้หรือฝึกตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ สามารถประยุกต์คำสอนนั้น ๆ มาปรับปรุงใช้กับ การดำรงชีวิตประจำวันและการปฏิบัติงานในหน้าที่ราชการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมเป็นกำลังพลที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น กับทั้งประพฤติตนให้เป็นประโยชน์แก่กองทัพบก สังคมและประเทศชาติ
๔.๒ คุณสมบัติของผู้เข้ารับการศึกษาอบรม เป็นนายทหารสัญญาบัตร นายทหารประทวน ในกองทัพบกทุกชั้นยศและลูกจ้าง ผู้มีความสมัครใจ หรือผู้ที่หน่วยคัดเลือกเข้ารับการศึกษาอบรม
๔.๓ งบประมาณและจำนวนผู้เข้ารับการศึกษาอบรม ตามที่กองทัพบกอนุมัติในแต่ละปี
๔.๔ การศึกษาอบรมในหลักสูตรดังกล่าว ประกอบด้วยภาคทฤษฎี ๑๕ ชั่วโมง, ภาคปฏิบัติ ๓๐ ชั่วโมง และเบ็ดเตล็ด ๔ ชั่วโมง
๔.๕ ระยะเวลาในการศึกษาอบรม ๑ สัปดาห์ ๔๙ ชั่วโมง
๕. หลักสูตรวิชาการศาสนาและศีลธรรม
กองพลที่ ๕ และมณฑลทหารบกที่ ๕ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกคำสั่งให้นายสิบที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ และนักเรียนนายสิบที่สังกัดอยู่ที่สังกัดอยู่ทั้งสองหน่วยเข้ารับการศึกษาวิชาการศาสนาและศีลธรรม ประมาณ ๒๔ ชั่วโมง เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๙๙ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นายทหารประทวนมีศีลธรรมเป็นหลักปกครองตน มีเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และให้มีจรรยามารยาทประพฤติตนเหมาะสมกับหน้าที่และได้รายงานให้กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารบกทราบ
พันเอก ปิ่น มุทุกันต์ ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกศึกษาอยู่ ได้พิจารณาเห็นว่ามีประโยชน์แก่นายทหารประทวนเป็นอย่างยิ่ง ควรดำเนินการทุกหน่วย จึงเรียนหารือกับหัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) พร้อมทั้งได้แนบคำสั่งของกองพลที่ ๕ และมณฑลทหารบกที่ ๕ เสนอไปยังกองทัพบก
กองทัพบก ได้เห็นความสำคัญและกำหนดให้หน่วยในกองทัพบกดำเนินการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันตามมาตรฐานการศึกษาวิชานี้ และให้กรมยุทธศึกษาทหารบกดำเนินการเปิดหลักสูตรวิชาการศาสนาและศีลธรรม ส่วนกลางขึ้น
กรมยุทธศึกษาทหารบก ได้ดำเนินการเปิดการสอนวิชาการศาสนาและศีลธรรมขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๐๐ ตามคำสั่งกองทัพบก ที่ ๑๕๒/๑๓๒๐๙ ลง ๑๑ ก.ค.๒๕๐๐ เรื่อง ให้นายสิบรับการศึกษาวิชาการศาสนาและศีลธรรม การศึกษาได้รับการพัฒนาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และกองทัพบกได้อนุมัติให้มีการปรับปรุงหลักสูตร โดยต่อเนื่องทุก ๕ ปี
๖. การอบรมพิธีกรด้านศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรมไทย
เนื่องจากหน่วยในกองทัพบกระดับกองพันลงมาขาดแคลนอนุศาสนาจารย์ และบางหน่วยมีที่ตั้งอยู่ห่างไกล ทำให้การจัดพิธีทางศาสนาไม่เป็นระเบียบแบบแผนเดียวกัน กองทัพบกจึงให้กรมยุทธศึกษาทหารบก จัดการอบรมนายทหารประทวนหน่วยต่างๆ เพื่อปฏิบัติหน้าที่พิธีกรด้านศาสนา โดยได้ทำการเปิดการอบรมตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน ตามอนุมัติ ผบ.ทบ. ท้ายหนังสือ กพ.ทบ. ที่ กห ๐๔๐๑/๒๐๖๔๒ ลง ๒๕ ก.ค.๔๙
๗. หลักสูตรตามแนวทางรับราชการของโรงเรียนเหล่า สายวิทยาการ
การกำหนดให้มีการสอนวิชาการศาสนาและศีลธรรม ในหลักสูตรต่างๆ ของ รร.เหล่าสายวิทยาการกองทัพบกนั้น ย่อมจะเป็นผลดีในด้านการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่กำลังพลของกองทัพบก ซึ่งเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่ต้องการสร้างสรรค์คุณธรรมให้เกิดขึ้นในจิตใจของข้าราชการทุกนายในกองทัพบก ดังนั้น กองทัพบกจึงให้ รร.เหล่าสายวิทยาการ กองทัพบกบรรจุวิชาการศาสนาและศีลธรรมในหลักสูตรต่างๆ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๓๑ เป็นต้นมา ดังนี้
๗.๑ หลักสูตรนักเรียนนายสิบ
๗.๒ หลักสูตรนายสิบชั้นต้น
๗.๓ หลักสูตรนายสิบอาวุโส
๗.๔ หลักสูตรการปฐมนิเทศนายทหารใหม่
๗.๕ หลักสูตรชั้นนายร้อย
๗.๖ หลักสูตรชั้นนายพัน
ให้หน่วยที่มีอัตราอนุศาสนาจารย์ ให้ความร่วมมือส่งอนุศาสนาจารย์ไปสนับสนุนการสอนวิชาการศาสนาและศีลธรรม ตามที่หน่วยเปิดการศึกษาร้องขอ
๘. หลักสูตรพิเศษต่าง ๆ
อนุศาสนาจารย์ จะต้องให้การสนับสนุนการสอนวิชาศีลธรรม, วิชาทางด้านพระพุทธศาสนา แก่หน่วยงาน, วัด เป็นต้น ที่ขอรับการสนับสนุน และเป็นวิทยากรบรรยายถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการ และพระนวกะในพรรษา เป็นต้น เพื่อเป็นการประสานสัมพันธ์ความร่วมมือกับองค์กรทางพระพุทธศาสนา
๙. ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
เพื่อส่งเสริมบุตรข้าราชการทหารในหน่วย และประชาชนใกล้เคียงหน่วยได้รับความรู้และมีความใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา หน่วยทหารบางหน่วยได้เปิดให้มีการสอนพิเศษในรูปของศูนย์-ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้น อนุศาสนาจารย์จะเป็นกำลังหลักในการเรียนการสอนตามศูนย์ต่างๆ เหล่านั้น โดยเฉพาะวิชาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และติดต่อประสานขอความร่วมมือกับสถานศึกษาใกล้เคียงหน่วยช่วยจัดอาจารย์สอนวิชาประกอบ เช่น วิชาภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์, นาฏศิลป์ เป็นต้น